ข้าวโพดเหมาะกับหน้าแล้งสามารถปลูกทดแทนข้าวนาปรังได้เป็นอย่างดี
เพราะใช้น้ำเพียง 800 คิวต่อไร่ต่อฤดูการปลูก ในขณะที่ข้าวต้องใช้น้ำถึง
1,200 คิว”
แต่ให้ได้ผลดี ดร.โชคชัย เอกทัศนาวรรณ
ผอ.ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ
สถาบันอินทรีย์จันทรสถิตย์และพัฒนาพืชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
แนะให้ดูสภาพดิน หากเป็นดินนาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นดินเหนียว
ต้องยกเป็นร่องขึ้นมา เพราะข้าวโพดไม่ชอบน้ำขัง รากจะหายใจไม่ออก
เมื่อไถพรวนเสร็จแล้ว ควรปลูกระยะห่าง 20-25 ซม. ลึก 4 ซม.ในอัตรา 8,533
ต้นต่อไร่ หากเป็นดินเหนียวให้เอาน้ำออก แต่ถ้าดินร่วนให้น้ำได้อีก 4-5
วัน...จากนั้นให้ฉีดยาคุมวัชพืช จำพวกอาทราซีน
แต่ฤดูถัดไป ต้องปลูกถั่วปรับปรุงดิน ให้ใช้ยากลุ่ม “อะลาคลอร์” เพราะอาทราซีนจะทำให้ถั่วตาย
ปลูก
ได้ 10-14 วัน ข้าวโพดงอกมา 1 คืบ ใช้ปุ๋ยรองพื้น 16-20-0 หยอดใส่ 1
ฝาเบียร์ต่อต้น หรือ 50 กก.ต่อไร่ เมื่อได้ 25-30 วัน ใส่ปุ๋ยยูเรีย สูตร
46-0-0 ในอัตรา 25 กก.ต่อไร่...กระทั่ง 55 วัน ข้าวโพดจะออกดอกให้ผลผลิต
สามารถเก็บเกี่ยวได้ในเวลาไม่เกิน 110 วัน
ดร.โชคชัย บอกอีกว่า
ปัจจัยที่จะทำให้ข้าวโพดให้ผลดี อยู่ที่ความชื้นอากาศสัมพัทธ์ 30%
อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 15 ํC เพราะต่ำกว่า 10 ํC เมล็ดจะไม่งอก ต้นกล้าโตช้า
ส่วนการปลูกที่ให้ได้ราคาดี จะต้องเริ่มในเดือน พ.ค.
เพื่อผลผลิตจะได้ออกมาในเดือน ก.ค.-ส.ค. เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศเหมาะสม
ผลผลิตในตลาดมีน้อย เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่นิยมปลูกกัน
และสายพันธุ์ที่ถือว่าดีที่สุดในขณะนี้ “สุวรรณ 4452” ให้ผลผลิตเฉลี่ย
1,200-1,500 กิโลกรัมต่อไร่ ทนโรคทนแมลง
และสิ่งที่เกษตรกรควรท่องจำ
ให้ขึ้นใจ...หากฝนแรกมาให้ลงถั่วเขียว และฝนเดือนหกลงข้าวโพด
ก่อนเก็บเกี่ยวให้หว่านถั่วแปบ ตัดข้าวโพดสูงกว่าฝัก 1
ข้อเอาไปใช้เลี้ยงสัตว์ รอให้ฝักข้าวโพดแห้งคาต้น เมื่อแห้งได้ที่เก็บฝัก
ถั่วแปบโตพอดี เก็บฝักถั่วเสร็จไถกลบต้นข้าวโพดและถั่วแปบเป็นปุ๋ยพืชสด
เพราะทั้งต้นทั้งรากถั่วแปบ มีสารมีเอนไซม์และกรดอะมิโนหลายชนิด ที่เหมาะแก่การบำรุงดินเพื่อปลูกข้าวโพดเป็นที่สุด.
ข้อมูลจาก ไทยรัฐ