ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2557/58 ว่ามีเนื้อที่ปลูก 7.40 ล้านไร่ ผลผลิต 5.01 ล้านตัน ผลผลิตต่อไร่ 676 กิโลกรัม ลดลงจากปี 2556/57 เนื่องจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกพืชที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เช่น มันสำปะหลัง และอ้อยโรงงาน
โดยมีสาเหตุมาจากราคาปรับตัวลดลงมาก จากการลดความต้องการใช้ลงของผู้ประกอบการรายใหญ่รายหนึ่งในภาคอุตสาห กรรมอาหารสัตว์ภายในประเทศ ที่ก่อนหน้านี้เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูก ทำให้ภาครัฐต้องใช้มาตรการแทรกแซงตลาด เพื่อยกระดับราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบเนื้อที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปริมาณผลผลิต ในช่วง 6 ปี ระหว่างปี 2552/53-2557/58 ที่ผ่านมาพบว่าเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 0.72 และร้อยละ 1.50 ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้ของภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ภายในประเทศ ขณะที่ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 6.84 โดยเฉพาะค่าเช่าที่ดินและค่าดูแลรักษา ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในอัตราเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 13.91 และร้อยละ 13.68 ตามลำดับ
ซึ่งความต้องการที่เพิ่มขึ้นเป็นไปตามการขยายตัวของภาคปศุสัตว์ โดยในช่วงปี 2552/53 - 2557/58 ความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอัตราเฉลี่ยต่อปีร้อยละ 3.55 ในขณะที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นอัตราเฉลี่ยต่อปี ร้อยละ 1.50 ทั้งนี้ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ปี 2557 คาดว่าจะมีประมาณ 5.00 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 4.72 ล้านตันในปี 2556 ร้อยละ 5.93
สำหรับราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2557/58 ที่ออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 เป็นต้นมานั้น ได้ปรับตัวลดลงจากกิโลกรัมละ 7.54 บาทในเดือนมิถุนายน เหลือกิโลกรัมละ 7.35 บาทในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ประกอบกับมีฝนตกชุกและต่อเนื่องทำให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกิดปัญหาด้านคุณภาพ คือมีความชื้นสูง มีโอกาสเกิดอะฟลาทอกซินได้ง่าย ผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไม่นิยมซื้อเก็บสต๊อกไว้ ทำให้ราคาที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวมากในช่วงเดือนสิงหาคม-ธันวาคม จึงมีราคาอ่อนตัวลงแต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าต้นทุนการผลิตเล็กน้อย
ฉนั้น ทางออกสำหรับเกษตรกรเป็น การเฉพาะหน้าก็คือจะต้องดูแลเรื่องคุณภาพและการใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยว เพราะหากมีความชื้นสูงจะทำให้แตกหักง่ายและโอกาสเกิดอะฟลาทอกซินง่ายยิ่ง ขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญของการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คือ ผลผลิตประมาณร้อยละ 85 ของผลผลิตทั้งหมด ออกสู่ตลาดกระจุกตัวในช่วงเดือนสิงหาคม-ธันวาคม และเนื้อที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กว่าร้อยละ 50 ปลูกในพื้นที่ไม่เหมาะสมและพื้นที่เขตป่าไม้ ซึ่งผลผลิตกว่าร้อยละ 90 จะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ภายในประเทศ
ข้อมูลจาก นสพ เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น